วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

** แยมโรล **

** แยมโรล **


เตรียมของ
ไข่ 5 ฟอง (ขนาดไซร์ไข่เป็ดบ้านเรา)
น้ำตาล 1 dl
แป้งสาลี 1dlพูนๆ
ผงวนิลา 2 ช้อนชาผงฟู 1ช้อนชา
แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมัน พืช 1 ช้อนโต๊ะ+นมสด1ช้อนโต๊ะ
กระดาษ ที่เป็นมันไว้สำหรับทำเค้ก แล้วเค้กจะไม่ติด กับกระดาษ (กระดาษไข สำหรับทำขนม)


1 เอาไข่ + น้ำตาล มาใส่ใน ในเครื่องตี( เครื่องนวดแป้ง)
ประมาณ 10นาทีได้ ดูพอว่าเป็นสีขาวเหมือนครีมนะ

เราก็เอาแป้งสาลี+ผงวนิลา2ชอ้น+ชา ผงฟู +แป้งมัน 
มาใส่กระชอนเขย่าๆใส่ผสมคนให้ทั่วแล้ว ตามด้วย นมสดช้อนนึง+น้ำมันพืชรีบคนไม่งั้น ไข่ที่ตีมันจะยุบลง


เปิดไฟเตาอบ 200 ไฟบน+ล่าง

เอากระดาษมารองที่ถาดแล้วเทไข่ที่ตีแล้ว ลงไป แล้วใส่เข้า เตาอบ อบประมาณ 10 นาที

ครีมหน้าเค้ก
ขณะที่รอก็ เอาครีมมาตี ขณะที่ตีในเครื่องต้องนั่งเฝ้าเลยละ ไม่งั้นเดี๋ยวแข็งออกมาเป็นเนยเลยคะประมาณ 5 นาทีได้ อยู่ที่เครื่องตี ด้วยนะคะ เลย แต่ถ้า พลาด ก็ไม่เป็นไร ก็ใช้ได้คะแต่ครีมเนื้อจะแข็งไปสีจะออกมาเป็นสีเนยแข็งเลยคะ แล้วก็เติมน้ำตาล + ผงวนิลาลงไปหน่อยชิมดูตามที่ชอบ

แล้วเอา ผงวนิลา มาใส่กระชอน แล้วเขย่าๆ ลงไปในไข่ที่ตี 
แล้วก็เอาน้ำตาลผสมลงไปก็ได้คะถ้าชอบหวานนะ

แล้ว ครบ 10นาที เราก็ เปิดเตาอบดูแล้วใช้ไม้จิ้มดู ถ้าไม่มีแป้งติดออกมาแสดงว่าแป้งสุกคะ

ก็ยกถาดออกมาจากเตา ผึ่งไว้ ให้เย็น

แล้ว เอากระดาษมัน มาวางลงไป แล้ว คว่ำ เค๊กลงไป ในกระดาษ แล้วค่อยๆลอก กระดาษออกมา แล้วคอยจับดูว่า เค๊ก เย็นลงจริงๆ ค่อยแล้วเอาครีมที่ตีมาทาหน้าเค๊ก

เกลี่ยครีมให้ทั่ว แล้วค่อยๆม้วน 
แล้วเอาไปใส่ในตู้เย็นเพื่อให้ครีม+เค๊กแข็งตัวสัก1+2ชม. 
แล้วมาหั่น (จะทำให้หั่นง่ายขึ้นเค๊กไม่แตกออก) หั่นเป็นชิ้นๆ และ เก็บเข้าตู้ เย็นไว้กินได้ประมาณ 3วันคะ

แยมโรลรูปและวิธีทำ




ขั้นตอนและวิธีทำ แยมโรลอย่างละเอียด

รูปที่ 1 เอาไข่ กับน้ำตาล มาใส่เครื่องตี ประมาณ10 ถึง 20 นาที
(แล้วแต่เครื่องจะแรงหรือไม่ )

รูปที่ 2 เตรียมแป้งที่จะผสม+กระชอน
แป้งสาลี 1dl.พูนๆ
ผงวนิลา 2 ช้อนชาผงฟู 1ช้อนชา
แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมัน พืช 1 ช้อนโต๊ะ+นมสด1ช้อนโต๊ะ
ดูว่าไข่ที่ตีในเครื่องมันฟูขึ้นมาแบบในรูป

รูปที่ 3+4 เอา หลังจากตีไข่ได้ที่แล้ว เอาแป้ง สาลีและผงวนิลา+ผงฟู
และแป้งมัน ผสมให้เข้ากัน แล้ว เอากระชอน มาวางแล้วค่อยๆเทลงไป
แล้วค่อยๆคนโดยใช้ตะกร้อที่ตีไข่ คนอย่างเบาๆให้แป้งผสมกันดี อย่าคนแรงแป้งจะไม่ฟู แล้วเอานมกับน้ำมันพืชใส่ตามลงไปคนให้เข้ากัน


พอคนเข้ากันดีแล้ว
ให้เอากระดาษ สำหรับ ทำเค๊ก เป็นมันๆ
มารองที่ถาด ค่อยๆเท ไข่ที่ตีแล้ว ผสมแป้งแล้ว 
เทลงไปในถาด เกลี่ยให้เสมอกัน เป็น 4 เหลี่ยมเต็มๆถาดที่อบ 
ถ้าดูแล้วมีฟองอากาศ ให้เอาถาด มา กระทบกับพื้น เบาๆ ไล่ฟองอากาศออกไปแล้ว ให้ดูว่าเตาอบไฟได้ที่แล้วก็ใส่ถาดลงไปอบ 


  หลังจากอบไปได้ 10 นาที ให้มาดูว่าแป้งฟูแล้ว เป็นสีน้ำตาลอ่อนๆหรือยัง?
(ขึ้นอยู่กับเตาด้วย เพราะเตาแต่ละตัวไฟจะไม่เหมือนกัน)
แต่ถ้าดูแล้ว เป็นสีน้ำตาลเริ่มเข้ม ให้เอาไม้ตะเกียบ จิ้มที่ตัวแป้งดู ถ้าไม่มีอะไรติดออกมาก็แสดงว่า แป้งสุกแล้ว 
ให้ยกถาดออกมาจากเตาอบเลย


 หลังจากที่อบเสร็จแล้วก็ยกออกมาจากเตาพักไว้ให้เย็น

ข้อควรจำ แป้งเค๊กในขณะที่จะเอาเข้าเตาอบ เตาบางตัว ไฟอาจจะแรง เช่นเตาตัวนี้ ไฟจากที่ เคยอบ 200 c.เราก็ลดลงมาเป็น 180c. 

เราจะรู้ได้ไงว่าเค๊กสุกหรือไม่สุก 
ในขณะที่อบไปได้7นาที ให้มาเฝ้าที่หน้าเตา ให้คอยดูว่าเค๊กเริ่มฟู สีผิวเค๊กเริ่มเข้มขึ้นเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ พอเค๊กพองแล้วเริ่มยุบตัวลงมาสัก1นาที แสดงว่าแป้งสุกเต็มที่แล้ว เพราะเค๊กจะไม่ฟูไปกว่านี้ และขณะที่อบ ถ้ายังไม่ได้เวลาดังที่กล่าวมา ก็ห้ามเปิดเตาอบเด็ดขาด แป้งเค๊กจะยุบลงทันที 

และเมื่อได้เวลาดังที่กล่าวมาก็เปิดเตาอบแล้วเอาไม้จิ้มดูถ้าไม่มีอะไรติดออกมาที่ไม้ ก็แสดงว่าสุกแล้วคะ แต่ถ้ามีอะไรติดออกมาก็ให้เอามือสัมผัสดูว่า เปียกๆไหม ถ้าเปียกก็ต้องอบใหม่อีกสัก 3 ถึง5นาที
แต่เค๊กจะไม่ฟูขึ้นมาอีกแล้ว เพราะเราไปเปิดไฟก่อนที่เค๊กจะสุก ก็จำไว้ คราวหน้า มาทำใหม่ เพราะไม่มีใครที่ทำครั้งแรกแล้วจะเพอร์เฟคไปซะทุกเรื่อง แต่รับรองว่า การทำบ่อยๆทำให้คุณได้สะสมประสพการณ์การทำครั้งหน้าต้องดีกว่าครั้งแรกแน่ๆคะ ต้องอ่านรายละเอียดให้ดีและตั้งใจทำ คุณก็จะทำสำเร็จแน่นอน สูตรของเราอันนี้เหมาะกับคนที่อยู่ต่างแดนมากๆคะ



แล้วก็เอา วิปปิ้งครีม มาตี ขอบอกว่าข้อสำคัญมากๆขณะที่ตีครีม
ให้ยืนเฝ้าเลย เพราะว่าถ้าคุณเผลอ ครีมที่ตี มันจะแข็งไปเป็นเนยเลยคะ แต่ถ้าผิดพลาด ก็ยังเอามาทาได้เหมือนกัน แต่อย่าเผลอดีกว่านะ ทำทั้งทีให้ออกมาดีๆเลยจะดีกว่า แบบตั้งใจทำ จิตใจคนทำอย่าวอกแวก

ในขณะที่ตีครีม คอยดูว่าครีมทีตีเริ่ม จับตัวกันแล้วหรือยัง 
เช่นเอานิ้วจิ้มดู ถ้า เป็นแบบ ปลายไม่หัก ก็โอเค
ยกออกมา เอา ผง วนิลลา1ช้อนโต๊ะ และน้ำตาล2ช้อนโต๊ะ (แล้วแต่คนชอบหวานหรือไม่) ผสมลงไป แล้วคนๆ ชิมดู รสพอดีคนกิน ก็โอเค
เอา ครีมใส่ไว้ในตู้เย็น

(ถ้าเราจะทำครีมไม่ใช่รสวนิลา เช่นรสโกโก้ เราก็เอาผงโกโก้ใส่ลงไปแทงผงวนิลา)

วิปปิ้งครีม ให้ดูวันหมดอายุด้วย เช่น วันพรุ่งนี้หมดอายุ
เมื่อเราทำแยมโรลเสร็จแล้วเราก็จะเก็บไว้ในตู้เย็นได้วันพรุ่งนี้อีกวันเดียว เพราะการที่ ครีม หมดอายุวันพรุ่งนี้ แล้วเราจะเก็บไว้กิน3วัน มันก็จะไม่ดีต่อสุขภาพและรสชาติของครีม


ใส่น้ำตาล+ผงวนิลลาลงๆไปคนๆให้เข้ากัน


เมื่อแป้งเค๊กเย็นลงแล้ว 

ถ้ากลัวว่าผิวของเค๊กจะลอกออกมาไม่สวยให้เอาน้ำตาลโรยไปที่แผ่นกระดาษอีกแผ่นโรยน้ำตาลให้ทั่ว 
แล้วเอาเค๊กมากลับอีกด้าน แล้วเอาครีมมาทาให้ทั่วๆให้เสมอกัน
ค่อยๆม้วนเค๊กแบบในรูป



 ถ้าจะหั่นเค๊กเลยก็ได้ แต่ถ้าจะให้ชัวร์ ให้เอาเค๊กไปแช่ตู้เย็นให้เค๊กกับครีมจับตัวกัน ใส่ตู้เย็นสัก1ถึง2ชม.
แล้วเอาออกมาหั่นจะง่ายขึ้น





 ครีมหน้าเค้ก 

วิปปิ้งครีม 3 dl.
น้ำตาล 2 ชต.
vanila essence 1 ถึง 2 ชช. (ใส่1ชช.แรกให้ชิมดูก่อนบางทีอาจจะมากกว่านั้น)

ทางที่ดีให้ ผสม vanila essence ลงไปใน วิปปิ้งครีม ก่อนที่จะลงมือตีครีม เพราะมันเป็นน้ำ (vanila essence ) อาจจะทำให้ครีมยุบลงไปก็ได้ เมื่อผสม vanila essence


ยกเอาที่คุณมะม่วงเคยถามและเราได้ตอบลงมาที่กระทู้นี้นะคะ

ส่วนผสมครีมข้างใน 

ครีมหน้าเค้ก 

เอาครีม(วิปปิ้งครีม)มาตี ขณะที่ ตีในเครื่องต้องนั่งเฝ้าเลยละ ไม่งั้นเดี๋ยวแข็งออกมาเป็นเนยเลยคะประมาณ 2ถึง3 นาทีก็คงจะได้(เครื่องที่บ้านแรงคะ) อยู่ที่เครื่องตี ดว้ยนะคะ บางเครื่อง(มือถือ)อาจจะ 5ถึง7นาทีเลย แต่ถ้าพลาด(หมายถึงตีครีมจนแช็งตัวออกมาเป็นเนย) ก็ไม่เป็นไร ก็ใช้ได้คะ เติมน้ำตาล 1ถึง2 ช้อนโต๊ะ+ ผงวนิลา2ชช.ลงไปหน่อยชิมดูตามที่ชอบ แต่ถ้าไม่มีผงวนิลา คุณมะม่วงมี vanila essence สาไม่เคยเห็นหน้าตาของมันเลยนะ แต่สาคิดว่าให้ลองใส่ลงไปสัก1ชช.ดูก่อนว่ารสจะดีไหม 
ทางที่ดีให้ผสมลงไปใน วิปปิ้งครีม ก่อนที่จะลงมือตีครีม เพราะมันเป็นน้ำอาจทำให้ครีมยุบลงไปก็ได้ เมื่อผสม vanila essence 
ลงไปใน วิปปิ้งครีม แล้วให้ชิมดูว่ามีรสวนิลาออกมารึยัง ถ้ายังก็เติมลงไปอีก ส่วนน้ำตาลให้ใส่ตอนตีครีมเรียบร้อยแล้ว แล้วให้ชิมว่าหวานพอดีกับรสชาติของคุณไหม เพราะบางคนอาจจะชอบหวานมากและบางคนอาจจะชอบ หวานน้อยแตกต่างกันไป

ถ้าไม่มีผงวนิลา ใช้ vanila essence แทนได้ค่ะ ให้ผสมตอนตีวิปปิ้งครีม ฟูดีแล้วก็ค่อยๆเทคนแบบตะล่อมๆ 

ลองกดเข้าไปดูวิธีทำนะคะ ว่าแต่ว่าคุณมะม่วงอยู่ที่ประเทศไหนคะ จำไม่ได้ว่าเคยบอกมาแล้วหรือยัง 
เพราะแป้งมันก็เป็นหัวใจสำคัญ แป้งแต่ละประเทศจะต่างกันคะ

ตอนที่ตีไข่ฟูดีแล้ว ให้ค่อยๆเทแป้งที่เราผสมแล้ว ให้เทใส่กระชอน เขย่าๆ แล้วเอาตะกวยค่อยๆคน แต่ถ้าคนนานไปแป้งก็ยุบ คนให้เข้ากันพอดี ของสาคนไม่เกิน5รอบก็เทใส่ถาดแล้วถ้ามีฟองอากาศ เราก็ เอาถาดมาวางกับพื้น กระแทกๆเบาๆไล่ลม ก็เอาเข้าเตาอบเลย 

ข้อสำคัญอีกอย่าง เตาอบแต่ละตัวความร้อนจะต่างกัน
ของสา เตาอันเก่าความร้อน 200 c. จะพอดี แต่ตัวที่ใช้อยู่นี้ 
ไฟแค่ 180 c.อบ แล้วอบ 10 นาทีเหมือนกัน ต่างแต่ตรงไฟ เพราะไฟของเตาตัวนี้ความร้อนจะแรงมากกว่าตัวเก่า

แล้วถ้าอบได้ที่แล้วเราจะเห็นผิวของแยมโรลมันเป็นสีเข้มน้ำตาลอ่อนๆ ถ้า10 นาทีแล้วก็เอาไม้จิ้มดู ถ้าไม่มีเนื้อแป้งติดออกมาเลยก็ แสดงว่าสุกแล้วให้ยกออกมาเลย พักไว้ให้เย็น
ข้อควรจำ เพราะเห็นหลายๆคนทำแล้วแป้งด้านสีเข้มจะหลุดลอกออกมาไม่สวย 

เป็นเพราะว่า.... 

คุณเอาแยมโรลออกจากเตา แล้วเอากระดาษมาวางเพื่อจะกลับมาอีกด้าน พอกลับแยมโรลมาอีกด้านแล้ว แล้วคุณก็ปล่อยมันทิ้งไว้ให้เย็น พอคุณเอาครีมหรือไส้มาทา แล้วเตรียมม้วน ผิวมันก็จะค่อยๆหลุดออกมาแลดูไม่สวย ตรงนี้และ นี้แหละที่เป็นสาเหตุของมันที่ทำให้ผิวลอกออกมาแบบลอกบ้างไม่ลอกบ้าง ในขณะที่คุณเอาแยลโรลออกมาแล้วพักไว้แต่ถ้าแยมโรลยังอุ่นๆอยู่
ถ้าคุณคิดว่าจะทาไส้ เช่นไส้ครีม ต้องระวังครีมจะละลาย 
ถ้าไส้ครีมให้พักตัวแยมโรลให้เย็นก่อน แล้วถึงจะเอาครีมมาทาแล้วถึงม้วน

ข้อเสียก็คือ ถ้าแป้งแยมโรลที่คุณทำมันหนาไป เมื่อทาครีมแล้วม้วนแป้งอาจหักหรือแตกเป็นรอยร้าวได้ง่ายๆทำให้ดูไม่สวยงาม

วิธีแก้ ขณะที่เทไข่ที่ตีแล้วผสมเครื่องแล้ว ให้เทลงไปในถาดเกลี่ยให้ทั่วๆ แต่ถ้าดูแล้วแป้งมันฟูแล้วดูท่าจะหนาไป ก็อย่าประหยัด (ถ้าอยากให้ออกมาสวย) เอาเกลี่ยๆให้ดูพอประมาณก็พอ ที่เหลือทิ้ง(แบบตัดใจเลย)

อีกข้อ ถ้าต้องการให้ผิวออกมาสวยแบบในรูปนี้ ก็พักให้เย็นแล้วค่อยม้วน หรือ เอาน้ำตาลโรยที่ กระดาษอีกแผ่นโรยให้ทั่วๆ
แล้วถึงจะกลับหน้าแยมโรล ผิวก็จะออกมาสวย 
แต่ในรูปนี่ไม่ได้โรยน้ำตาลนะ แค่มาบอกวิธีให้คะ 
คะ อธิบายมาซะยาวหวังว่าอ่านแล้วคงพอจะเข้าใจนะคะ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สพป.บร.1

คลังบทความของบล็อก